Last year, rapper Junoflo showed up in Austin at SXSW as part of the larger Feel Ghood label contingent as a featured artist during sets by iconic Korean hip-hop artists Yoonmirae and Tiger JK. But this year the 25-year-old took to the stage on his own at The Belmont the Korea Spotlight showcase on March 16, just three days after he released his first EP since signing to a Korean label. It preceded another set the next day at the H1GHR Music showcase, and a solo showcase in New York on Friday, March 30.

A Cali boy, Junoflo (Sam Juno Park) grew up in Los Angeles and went to college in San Diego, where he worked as a photographer at hip-hop concerts. “I got to see so many hip-hop artists come up like Joey Bada$$, Action Bronson, Tyler, the Creator, like ScHoolboy Q, like Logic,” Junoflo told Billboard ahead of his SXSW set. “I went to every one of the shows and I just absorbed.”

Hip-hop had called to the rapper since he was young, and he cites the genre’s roots in jazz as one of the reasons he began to write music: “What really made me love hip-hop was when I discovered A Tribe Called Quest. The way that they used jazz, they sampled jazz to create this entirely new feel, that’s what I fell into. I fell down that rabbit hole. That made me want to write too.”

After working in fashion for a few years, he decided to save up and take a year off from everything else to pursue music. And one day Tiger JK, also known as Drunken Tiger, hit him up, resulting in Junoflo heading over to Korea. “He’s essentially the founder of Korean hip-hop -- he’s that guy," the rapper explains. "I didn’t know he wanted to sign me. It was more like he reached out, ‘Hey, I want to talk to you.’ He flew to LA just to meet me. There was no, ‘Oh, I’m going to go to Korea and do Korean music.’ It was just the right artists linked together; he happened to be living in Korea, doing music in Korea, so I was like, ‘I’ll just take this chance.’” 

The Only Human EP came out on March 13, laying forth Junoflo’s expressive musicality. “We all go through our own struggles, our own feelings of victory and failure, and everything in between,” says the rapper. “It’s just about embracing all of my flaws... It was my human experience throughout this year. I feel that [for] my growth as an artist, and just as a human being, this project was kind of like the culmination of all my feelings.”

The EP is collab-heavy, and only features two solo tracks, “Way2gone” and “Real Ones.” But that's just fine with Junoflo. “Working alone all the time and now having all these talented artists around me, to not only give me their opinion, but to actually play a part in the creation of that art, to me, it was amazing," he explains.

The single “Grapevine” features Jay Park and reflects Junoflo’s experience with the rumors that spread around him after becoming a public persona. “It’s not necessarily about bad energy,” he says. ”People are going to talk. Everybody talks. Everybody listens. It’s what you do with that information that makes you the type of person that you are. To me, it’s about whatever you hear alright. Take what you need from me and live your life because that’s what I’m going to do.”

As one of Korean hip-hop’s rising stars -- he appeared during the fifth and sixth seasons of the popular rap series Show Me The Money -- Junoflo isn’t just working within the K-hip-hop scene: he recently featured on BoA’s “Your Song,’ off of last month’s One Shot, Two Shot EP. “I was like, ‘What?''” recalls Junoflo of getting the call to appear on the track. “'BoA? The BoA? You’re not talking about no zoos or nothing, right?’ When that came in, I was like, ‘Hell yeah!’ She’s iconic. She’s legendary. I’m just shocked that she thought of me to be on this song. That’s just crazy to me. I still see myself like this kid who is rapping in his dorm room in San Diego. The fact that I could be part of such a major project with such a major artist, that’s just amazing to me.”

Being raised bilingual -- “Korean in the house but English outside” -- Junoflo recognizes the immensity of Korean music’s rise to prominence on the global scene over the past few years. “This is definitely a moment in music history,” he said. “But not just music, culturally. I think this really shows that music is the universal language and something that unifies everything and everybody. The fact that I can be part of this movement right now, this progression, I just want to play my part, I just want to do my best to push it in a positive way, to create dope stuff.”

Fresh off of Only Human, Junoflo is already thinking about what he wants to do next. “Hopefully I can put out another project by the end of this year, that’s the goal. In both Korean and global markets. I just wanna reach every part of the world with my music.“

 

ปีที่แล้ว แร็ปเปอร์ Junoflo ได้ขึ้นทำการแสดงที่ Austin SXSW ซึ่งเขาเป็นส่วนหนึ่งของค่ายใหญ่อย่าง Feel Ghood Music ในฐานะศิลปินที่ทำงานร่วมกับศิลปินฮิปฮอปชื่อดัง Yoonmirae และ Tiger JK แต่ในปีนี้ เขาผู้มีอายุ 25 ปี ได้มีเวทีเป็นของตัวเองที่ The Belmont, The Korea Spotlight showcase ในวันที่ 16 มีนาคม เป็นเวลาเพียงสามวันเท่านั้นหลังจากที่เขาที่ปล่อย อัลบั้ม (EP) แรกออกมานับตั้งแต่ที่เขาได้เซ็นสัญญากับค่ายเกาหลี ต่อด้วยการแสดงอีกชุดหนึ่งในวันถัดไปที่ H1GHR Music Showcase และโชว์เคสเดี่ยวในนิวยอร์ค ในวันศุกร์ที่ 30 มีนาคมนี้

 

เด็ก Cali (California แคลิฟอร์เนีย) Junoflo (แซม จูโน่ ปาร์ค) เติบโตขึ้นมาใน Los Angles และศึกษาต่อต่อมหาวิทยาลัยใน San Diego เป็นที่ที่เขาทำงานในฐานะช่างภาพคอนเสิร์ตฮิปฮอป “ผมได้เจอศิลปินฮิปฮอปมากมายเลยครับ เช่น “Joey Bada$$, Action Bronson, Tyler, the Creator, ScHoolboy Q, Logic ครับ” Junoflo บอก Billboard ว่าก่อนเซ็ทการแสดงของเขา “ผมไปดูการแสดงใดการแสดงหนึ่งเพื่อที่เรียนรู้และซึมซับมาครับ”

ฮิปฮอปอยู่กับแร็ปเปอร์ตั้งแต่เขายังเด็กและเขากล่าวว่าเขาเริ่มมากจากดนตรีแจ๊ส แจ๊สคือหนึ่งในเหตุผลที่เขาเริ่มเขียนเพลง: "สิ่งที่ทำให้ผมรักฮิปฮอป คือตอนที่ผมค้นพบ A Tribe Called Quest วิธีที่พวกเขาใช้แจ๊ส พวกเขาลองใช้แจ๊สเพื่อสร้างความรู้สึกใหม่ทั้งหมดนี้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมหลงใหลกับมันและนั่นทำให้ผมอยากจะเขียนเพลงด้วยครับ"

 

หลังจากทำงานในวงการแฟชั่นมาหลายปีแล้วเขาก็ตัดสินใจที่จะเก็บเงินและใช้เวลาหนึ่งปีออกจากทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อไล่ตามดนตรี และวันหนึ่ง Tiger JK หรือที่เรียกว่า Drunken Tiger ก็ติดต่อเขามา

ทำให้ Junoflo เดินทางไปยังเกาหลี "เขาเป็นผู้ก่อตั้งฮิปฮอปเกาหลีของจริง เขาคือคนคนนั้น" แร็ปเปอร์อธิบาย "ผมไม่รู้ว่าเขาต้องการจะเซ็นสัญญากับผม เขาก็แค่ติดต่อผมมา "เฮ้ ฉันอยากคุยกับนาย"

เขาบินไปที่ LA เพื่อที่จะพบกับผม มันไม่ใช่ว่า 'โอ้ ฉันจะไปเกาหลีและทำเพลงเกาหลี' มันเป็นเพียงแค่การที่ศิลปินที่ใช่มีการติดต่อกันแค่นั้น มันก็แค่ เขาอยู่ที่เกาหลี ทำดนตรีในประเทศเกาหลีดังนั้นผมเลย

'ผมจะใช้โอกาสนี้ล่ะกัน'

 

"อัลบั้ม (EP) Human Only ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา อัลบั้มนี้เป็นการแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของ Junoflo" เราทุกคนต่างก็ผ่านความยากลำบากของตัวเราเอง ความรู้สึกเราต่อความชนะและความล้มเหลวและทุกอย่างในช่วงเวลานั้น" แร็ปเปอร์กล่าว "มันเป็นเพียงการยอมรับข้อบกพร่องทั้งหมดของผม ... มันเป็นประสบการณ์ของการเป็นมนุษย์ของผมตลอดทั้งปีนี้ ผมรู้สึกว่า [สำหรับ] การเติบโตของผมในฐานะศิลปินและในฐานะมนุษย์ โปรเจ็คนี้ก็เหมือนกับจุดที่สูงที่สุดของความรู้สึกทั้งหมดของผมครับ"

EP นี้มีการร่วมงานกันอย่างมากในอัลบั้มนี้ และมีเพลงเดี่ยวเพียงแค่สองเพลงเท่านั้นคือ "Way2gone" และ "Real Ones" แต่มันก็เป็นไปได้ดีสำหรับ Junoflo "การทำงานด้วยตัวเองอยู่ตลอดเวลาและในตอนนี้ก็มีศิลปินที่มีพรสวรรค์มากมายอยู่รอบตัวผม ไม่เพียงแค่ให้ความเห็นต่อผมเท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมในการสร้างงานศิลปะให้กับผม มันสุดยอดมากครับ" เขาอธิบาย

เพลง "Grapevine” ร่วมงานกับ Jay Park และสะท้อนให้เห็นถึงประสบการณ์ของ Junoflo กับข่าวลือที่แพร่กระจายไปทั่ว หลังจากที่กลายเป็นบุคคลสาธารณะ "มันไม่จำเป็นที่จะต้องเกี่ยวกับสิ่งไม่ดี" เขากล่าว "ผู้คนก็จะพูด ทุกคนพูดถึง ทุกคนรับฟัง มันเป็นสิ่งที่คุณทำกับข้อมูลนั้นต่างหาก ที่ทำให้คุณเป็นคนแบบนั้น สำหรับผม มันเกี่ยวกับอะไรก็ตามที่คุณได้ยิน เอาสิ่งที่คุณต้องการจากผมและใช้ชีวิตของคุณเพราะนั่นคือสิ่งที่ผมจะทำ"

 

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในดาวรุ่งของฮิปฮอปเกาหลีเขาได้ปรากฏตัวในฤดูกาลที่ห้าและหกของรายการแร็ป

ยอดนิยมอย่าง Show Me The Money.

Junoflo ไม่ใช่แค่ทำงานในวงการฮิปฮอปเกาหลีเท่านั้น เขาเพิ่งได้ร่วมงานกับ BoA  เพลง "Your Song" 'จากอัลบั้ม One Shot, Two Shot เมื่อเดือนที่ผ่านมา "ผมก็แบบว่า อะไรนะครับ?' เขาเรียกเรียก Junoflo ให้มาอยู่เพลง "งูเหลือม?  BoA? คุณไม่ได้พูดถึงสวนสัตว์หรืออะไรแบบนั้นใช่มั้ย? "เมื่อสิ่งนั้นมาถึงผม “โอ้วว แน่นอน!” "เธอเป็นสัญลักษณ์ เธอเป็นตำนาน ผมตกใจมากที่เธอคิดถึงว่าผมควรจะอยู่ในเพลงนี้ มันช่างบ้ามาก ผมยังคงเห็นตัวเองเป็นเด็กคนนึงที่แร็ปในหอพักของเขาในซานดิเอโก ความจริงที่ว่าผมอาจจะได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็คสำคัญ ๆ กับศิลปินดัง ๆ เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากสำหรับผม"

 

การถูกเลี้ยงมาด้วยการพูดได้สองภาษา - "ภาษาเกาหลีในบ้าน แต่ภาษาอังกฤษนอกบ้าน" - Junoflo ตระหนักถึงความเติบโตของดนตรีเกาหลีที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา "นี่เป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ดนตรี" เขากล่าว "แต่ไม่ใช่แค่ดนตรี วัฒนธรรมก็เช่นกัน ผมคิดว่านี่เป็นการแสดงให้เห็นว่าดนตรีเป็นภาษาสากลและเป็นสิ่งที่รวมทุกอย่างและทุกๆคนไว้ ความจริงที่ว่าผมสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวนี้ในตอนนี้ ความก้าวหน้านี้ ผมต้องการแค่เล่นบทบาทของผมเท่านั้นเอง ผมต้องการทำให้ดีที่สุดเพื่อผลักดันให้มันเป็นไปในทิศทางบวกเพื่อสร้างสิ่งที่ดีขึ้นมา"

 

นอกเหนือจาก Only Human แล้ว Junoflo กำลังคิดถึงสิ่งที่เขาอยากต้องการจะทำต่อไป “ผมหวังว่าผมจะสามารถทำโปรเจ็คอื่นได้อีกภายในปีนี้ นั้นคือเป้าหมายของผม ทั้งในตลาดเกาหลีและตลาดโลก ผมแค่ต้องการเข้าถึงทุกส่วนของโลกด้วยเพลงของผมครับ”

 

 

Editors: หมายเหตุผู้แปล

 

● Boa ในภาษาอังกฤษแปลว่างูเหลือมค่ะ